โปรแกรมการแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน : วันจันทร์ที่ 03 มกราคม 2565
เวลาแข่งขัน : 00:30 น.
แมตช์การแข่งขัน : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS วูล์ฟแฮมป์ตัน
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD1 / True Premier Football HD2

ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม

29 สค 2021 วูล์ฟส์ 0 – 1 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ ลีก)
23 พค 2021 วูล์ฟส์ 1 – 2 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ ลีก)
29 ธค 2020 แมนฯ ยูไนเต็ด 1 – 0 วูล์ฟส์ (พรีเมียร์ ลีก)
01 กพ 2020 แมนฯ ยูไนเต็ด 0 – 0 วูล์ฟส์ (พรีเมียร์ ลีก)
15 มค 2020 แมนฯ ยูไนเต็ด 1 – 0 วูล์ฟส์ (เอฟเอ คัพ)

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
05 ธค 2021 ชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 (เหย้า , พรีเมียร์ ลีก)
08 ธค 2021 เสมอ ยัง บอยส์ 1-1 (เหย้า , แชมเปี้ยนส์ ลีก)
11 ธค 2021 ชนะ นอริช 1-0 (เยือน , พรีเมียร์ ลีก)
27 ธค 2021 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เยือน , พรีเมียร์ ลีก)
30 ธค 2021 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 (เหย้า , พรีเมียร์ ลีก)

วูล์ฟแฮมป์ตัน
01 ธค 2021 เสมอ เบิร์นลี่ย์ 0-0 (เหย้า , พรีเมียร์ ลีก)
04 ธค 2021 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (เหย้า , พรีเมียร์ ลีก)
11 ธค 2021 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 (เยือน , พรีเมียร์ ลีก)
15 ธค 2021 ชนะ ไบรท์ตัน 1-0 (เยือน , พรีเมียร์ ลีก)
19 ธค 2021 เสมอ เชลซี 0-0 (เหย้า , พรีเมียร์ ลีก)

สภาพทีมโดยทั่วไป

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาทำผลงานได้ค่อนข้างดีอีกครั้ง เมื่อยังไม่แพ้ใครเลย นับตั้งแต่แยกทางกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สำหรับ 5 นัดหลังในลีก ชนะ 4 เสมอ 1 โดยเกมนัดล่าสุด คือการเปิดบ้านเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้มี 31 แต้ม จาก 18 นัด รั้งอันดับ 7 ของตาราง สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ ราล์ฟ รังนิค จะยังคงไม่มี ปอล ป็อกบา และ เอริก ไบยี่ ที่ยังบาดเจ็บ รวมทั้ง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่จะได้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีม ร่วมกับแกนหลักรายอื่นๆ ที่ยังคงฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนาม โดยเกมนี้เจ้าถิ่นจะยังคงมาในระบบ 4-2-2-2 แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาแอล วาราน, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ลุค ชอว์ ส่วนคู่มิดฟิลด์ตัวรับใช้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ยืนคุมเกมร่วมกับ เฟร็ด ขณะที่คู่กองกลางตัวรุกส่ง เจดอน ซานโช่ ลงประสานงานกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส โดยมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด คอยไล่ล่าตาข่าย

วูล์ฟแฮมป์ตัน

ส่วนผู้มาเยือนอย่าง “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ฟอร์มการเล่นในช่วงที่ผ่านมา ยังคงไม่สม่ำเสมอมากนัก โดยผลงาน 5 นัดหลัง ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 2 ทว่าเกมล่าสุดสามารถเปิดบ้านเจ๊ากับ เชลซี 0-0 เมื่อราวครึ่งเดือนที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้มี 25 แต้ม จาก 18 นัด รั้งอันดับ 9 ของตาราง สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ บรูโน่ ลาช ยังคงต้องพบกับปัญหาในการจัดทัพ เมื่อจะขาดแข้งที่ยังบาดเจ็บอยู่หลายราย ไม่ว่าจะเป็น เปโดร เนโต้, จอนนี่ กาสโตร, เยร์ซอน มอสเกร่า และ ฮวาง ฮี-ชาน ส่วนในรายของ ฟาบิโอ ซิลวา, รายาน ไอต์-นูรี่ และ วิลลี่ โบลี่ ยังต้องรอเช็กสภาพความฟิต คาดว่าเกมนี้ทีมเยือนจะมาในระบบ 3-4-3 แนวรับ 3 คน ประกอบด้วย แม็กซ์ คิลแมน, คอเนอร์ เคาดี้ และ โรแม็ง ซาอิสส์ วิงแบ็ก 2 ฝั่งเป็น เนลซอน เซเมโด้ กับ แฟร์นันโด มาร์ซาล ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางใช้ รูเบน เนเวส ยืนคุมเกมร่วมกับ ชูเอา มูตินโญ่ โดยมี อดาม่า ตราโอเร่, ราอูล ฮิเมเนซ และ ฟรานซิสโก้ ตรินเกา เป็น 3 ประสานในแดนหน้า

ความน่าจะเป็นของเกม

ปีศาจแดง ทำได้แค่บุกไปเสมอกับ สาลิกาดง เมื่อสัปดาห์ก่อน ทว่าเกมล่าสุด พวกเขาก็กลับมาเปิดบ้านเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ไปได้แบบไม่ยากเย็น ทำให้น่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาสู่ทีมได้พอสมควร ส่วนทีมเยือนอย่าง ทัพหมาป่า ที่ไม่ได้ลงแข่งขันมากว่าครึ่งเดือน แม้จะได้เปรียบในเรื่องของสภาพร่างกายที่ได้พักมาอย่างเต็มที่ แต่ในทางกลับกัน มันก็อาจจะส่งผลในเรื่องของความไหลลื่นของเกม เมื่อพวกเขาอาจต้องใช้เวลาสักนิดในการปรับจูนจังหวะเข้าหากัน โดยเฉพาะเรื่องของการผลิตสกอร์ที่ยังคงเป็นปัญหา หลังเพิ่งยิงได้เพียงลูกเดียวเท่านั้น จาก 6 นัดหลังสุด หากเปรียบเทียบฟอร์มการเล่น รวมทั้งสถิติการพบกันในช่วงหลังแล้ว แมนยู ก็ยังดูเหนือกว่าอยู่พอสมควร ทว่าหากเจาะลึกลงไปในรูปเกม จะพบว่ากว่าที่พวกเขาจะเอาชนะ วูล์ฟส์ ได้ในแต่ละครั้งนั้น ก็ไม่ใช่งานที่ง่ายเลย ฉะนั้นจึงคาดว่า นี่จะเป็นอีกครั้งที่ผีแดงอาจจะต้องเจอกับงานที่เหนื่อยไม่น้อย โดยในช่วงแรก เกมอาจจะมีความอึดอัดอยู่บ้าง แต่หากปลดล็อกยิงประตูแรกได้เมื่อไหร่ ก็มีโอกาสที่ลูกสองจะตามมา สุดท้ายแล้วจึงเชื่อว่า เจ้าถิ่นน่าจะเป็นฝ่ายเก็บ 3 แต้มในเกมนี้ได้สำเร็จ